ความหมายและกรอบทฤษฎีของพลเมืองดิจิทัล

นิยามเชิงวิชาการของพลเมืองดิจิทัล

ตามการศึกษาของ Ribble (2021) และการทบทวนวรรณกรรมจาก Öztürk (2021) พลเมืองดิจิทัลประกอบด้วยองค์ประกอบ 9 ด้านที่จัดกลุ่มได้เป็น 3 หมวด:

ด้านความเคารพ (Respect):

  • การเข้าถึงดิจิทัล (Digital Access)
  • มารยาทดิจิทัล (Digital Etiquette)
  • กฎหมายดิจิทัล (Digital Law)

ด้านการศึกษา (Education):

  • การสื่อสารดิจิทัล (Digital Communication)
  • รู้หนังสือดิจิทัล (Digital Literacy)
  • การค้าดิจิทัล (Digital Commerce)

ด้านการคุ้มครอง (Protection):

  • สิทธิและความรับผิดชอบดิจิทัล (Digital Rights & Responsibilities)
  • ความปลอดภัยดิจิทัล (Digital Security)
  • สุขภาพและความเป็นอยู่ดิจิทัล (Digital Health & Wellness)

กรอบทฤษฎี Technological Citizenship

งานวิจัยล่าสุดของ Gardenier และคณะ (2024) ใน Digital Society นำเสนอกรอบทฤษฎี "Technological Citizenship" ที่เน้น:

  • การเสริมพลัง (Empowerment) และ ความยืดหยุน (Resilience) เป็นขีดความสามารถสำคัญ
  • บทบาทของพลเมืองในการควบคุมและกำกับดูแลการพัฒนาเทคโนโลยี
  • การบูรณาการข้ามสาขาส่วนตัว สังคม และภาครัฐ

การเปลี่ยนแปลงของการมีส่วนร่วมทางการเมืองในยุคดิจิทัล

ประชาธิปไตยแบบกระจายอำนาจผ่านเทคโนโลยี

การศึกษาจาก Cambridge Core (2024) ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ:

  • การเปลี่ยนจากระบบแบบ top-down สู่แพลตฟอร์มที่ให้พลเมืองมีอำนาจควบคุมกระบวนการทางการเมืองอย่างแท้จริง
  • ตัวอย่างโครงการ D-CENT และ DECODE ที่สนับสนุนโดย EU
  • การสร้างพื้นที่สำหรับการตัดสินใจร่วมกันผ่านเทคโนโลยี

รูปแบบการมีส่วนร่วมดิจิทัล

ตามการศึกษาของ Taylor & Francis (2017) การมีส่วนร่วมทางการเมืองดิจิทัลแบ่งได้ 3 ระดับ:

1.      ผู้ชม (Audience): การรับสารจากพรรคการเมืองอย่างเป็นพิธีกรรม

2.      เพื่อน (Friends): การมีส่วนร่วมผ่านการแสดงการสนับสนุน

3.      นักเคลื่อนไหวดิจิทัล (Digital Activists): การสร้างเนื้อหาทางการเมืองและร่วมผลิตข้อมูล

ผลกระทบของ COVID-19 ต่อการมีส่วนร่วมของพลเมืองดิจิทัล

การเร่งการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล

ข้อมูลจาก UNESCO แสดงให้เห็นความแตกต่าง:

  • ประเทศพัฒนาแล้ว: 87% ของครัวเรือนมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • ประเทศกำลังพัฒนา: เพียง 47% ของครัวเรือนมีการเชื่อมต่อ

บริบทประเทศไทย

ข้อมูลการวิจัยชี้ให้เห็น:

  • อุปกรณ์มือถือ 93.39 ล้านเครื่อง
  • การใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน
  • อัตราการใช้งานมือถือบรอดแบนด์ 108%

การศึกษาจาก Thailand Institute of Justice ระบุว่าสถานการณ์ COVID-19 ได้ผลักดันให้เกิด "Covid-19 Schooling" และการปฏิบัติพลเมืองดิจิทัลในภาวะฉุกเฉิน

ประโยชน์และความท้าทายของการมีส่วนร่วมทางการเมืองดิจิทัล

ประโยชน์ที่ได้รับการยืนยันจากงานวิจัย

1.      การเพิ่มการเข้าถึง: ลดอุปสรรคในการมีส่วนร่วมทางการเมือง

2.      ข้อมูลแบบเรียลไทม์: แอปพลิเคชันมือถือให้ข้อมูลรัฐบาลทันที

3.      ความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจากฝูงชน: แพลตฟอร์มเช่น 311, SeeClickFix

4.      การเชื่อมโยงข้ามพรมแดน: ความร่วมมือในประเด็นร่วม

ความท้าทายที่ต้องจัดการ

1.      Digital Divide และความไม่เท่าเทียม: การเข้าถึงที่ไม่เท่าเทียมส่งผลต่อชุมชนด้อยโอกาส

2.      ความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: ภัยคุกคามทางไซเบอร์และการเฝ้าระวัง

3.      ประเด็นความสมบูรณ์ของประชาธิปไตย: การครอบงำของแพลตฟอร์มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่

แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพุธ, 3 กันยายน 2025, 12:47PM