บทที่ 6 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี (Digital Ethics)
ความหมายของจริยธรรมดิจิทัล: จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีหมายถึงหลักคุณธรรมและศีลธรรมที่กำกับการประพฤติปฏิบัติของเราบนโลกออนไลน์และการใช้เทคโนโลยี แม้ว่าโลกดิจิทัลจะมีความแปลกใหม่ทางเทคโนโลยี แต่หลักจริยธรรมพื้นฐานยังคงนำมาใช้ได้ไม่ต่างจากในโลกจริง เช่น ความซื่อสัตย์ ความเคารพผู้อื่น ความรับผิดชอบ และความเห็นอกเห็นใจ แต่โลกดิจิทัลก็มีประเด็นจริยธรรมเฉพาะใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมเทคโนโลยี เช่น ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล จริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์ การใช้สื่อออนไลน์อย่างมีจรรยา เป็นต้น การตัดสินใจว่า “อะไรถูกอะไรผิด” ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคือหัวใจของจริยธรรมดิจิทัล
ประเด็นจริยธรรมที่พลเมืองดิจิทัลควรใส่ใจ:
- ความซื่อสัตย์และความจริงใจออนไลน์: การสื่อสารออนไลน์ควรยึดหลักความจริงใจ เช่น ไม่แอบอ้างตัวตนเป็นคนอื่น (ยกเว้นในกรณีจำเป็นเช่นนามปากกา แต่ไม่ควรใช้เพื่อหลอกลวง), ไม่แต่งเรื่องโกหกหรือให้ข้อมูลเท็จเพื่อประโยชน์ตนเอง การหลอกลวงในโลกออนไลน์ (fraud) เป็นทั้งปัญหาจริยธรรมและผิดกฎหมาย เช่น การหลอกขายสินค้าออนไลน์ การฟิชชิงข้อมูลส่วนตัว ในฐานะพลเมืองดิจิทัล เราควรรักษาความซื่อสัตย์ของตนเองและไม่สนับสนุนการโกหกหลอกลวงทุกรูปแบบ
- จริยธรรมในการใช้ข้อมูล: ทุกวันนี้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีการเก็บรวบรวมและซื้อขายข้อมูลผู้ใช้อย่างแพร่หลาย พลเมืองดิจิทัลควรเข้าใจ สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล ของตน (ดังที่กล่าวในส่วนสิทธิ) และปฏิบัติต่อข้อมูลของผู้อื่นอย่างมีจริยธรรมด้วย ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นผู้ดูแลระบบหรือมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของผู้อื่น ก็ต้องไม่ละเมิดความไว้วางใจโดยการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้นอกเหนือวัตถุประสงค์ที่เหมาะสม ไม่สอดแนมหรือขายข้อมูลลูกค้า/เพื่อน/ผู้ติดตามโดยพลการ
- การเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง: โลกออนไลน์เต็มไปด้วยแนวคิดที่หลากหลาย บางครั้งเราอาจพบเจอเนื้อหาหรือความเห็นที่ขัดกับความเชื่อของเรา ความเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีจริยธรรมสะท้อนผ่านวิธีที่เราตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้น Richard Culatta ซีอีโอของ ISTE กล่าวไว้ว่า ทักษะที่จำเป็นของพลเมืองดิจิทัลไม่ใช่มีแค่เรื่องความปลอดภัยออนไลน์ แต่รวมถึง “การรู้จักแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากเรื่องหลอกลวง การใช้เทคโนโลยีเพื่อมีส่วนร่วมในสังคม และการเคารพผู้คนที่มีมุมมองแตกต่างจากเรา” (Culatta, 2019iste.org) ดังนั้นในการถกเถียงหรือแสดงความคิดเห็น เราควรรักษาจริยธรรมของการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ตอบโต้ด้วยความเกลียดชังหรืออคติ แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
- การไม่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิดศีลธรรม: ตัวอย่างเช่น การแฮ็กเจาะระบบหรือปล่อยไวรัสเพื่อความสนุกเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อดูหรือเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดจรรยาบรรณ (เช่น สื่อลามกอนาจารผิดกฎหมาย การทารุณกรรม) ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควร, อีกตัวอย่างคือ การใช้ AI สร้างภาพ/เสียงปลอม (deepfake) ในทางที่ละเมิดผู้อื่นหรือหลอกลวงสังคม ก็เป็นประเด็นจริยธรรมใหม่ที่เราต้องพิจารณาว่าสมควรทำหรือไม่ พลเมืองดิจิทัลควรมีเข็มทิศทางศีลธรรมคอยชี้ว่ากิจกรรมใดที่ “ทำได้แต่ไม่ควรทำ” แม้เทคโนโลยีจะเปิดโอกาสให้ก็ตาม
- ความรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของตนเองและคนรอบข้าง: จริยธรรมดิจิทัลยังครอบคลุมถึงการดูแลสุขภาวะของตนเองและการไม่ทำร้ายผู้อื่น เช่น จริยธรรมในการใช้สื่อสังคม – เราควรตระหนักถึงผลทางจิตวิทยาของโซเชียลมีเดีย เช่น การเสพเนื้อหาที่กระทบจิตใจคนอื่นโดยไม่จำเป็น หรือการติดสื่อออนไลน์จนกระทบชีวิตจริง การใช้เทคโนโลยีควรอยู่ในความพอดี (ซึ่งจะพูดในส่วนถัดไปเรื่องสมดุลชีวิตดิจิทัล) รวมถึง จริยธรรมต่อสังคมดิจิทัล เช่น ไม่ยุยงส่งเสริมการกระทำที่ผิดศีลธรรมในหมู่ผู้อื่น ไม่ให้ค่าความรุนแรงหรือความเกลียดชังบนโลกออนไลน์
เครื่องมือช่วยในการตัดสินใจเชิงจริยธรรม: เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนว่าถูกหรือผิด เราอาจใช้แนวทางดังนี้:
- หลักคิดแบบ “Front Page”: ลองจินตนาการว่าหากการกระทำหรือโพสต์ที่เรากำลังจะทำนั้นไปปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์วันพรุ่งนี้ในชื่อเราจริง ๆ เราจะรู้สึกอับอายหรือละอายใจหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ควรหลีกเลี่ยงการกระทำนั้น
- ปรึกษาผู้อื่น: หากไม่แน่ใจว่าควรทำสิ่งใดในโลกออนไลน์ การขอคำปรึกษาจากเพื่อนที่ไว้ใจ ครู หรือผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์สามารถช่วยให้เห็นมุมมองด้านจริยธรรมที่รอบคอบขึ้น
- ยึดหลักคุณธรรมสากล: เช่น ความซื่อสัตย์ ความไม่เบียดเบียน ลองพิจารณาว่าสิ่งที่ทำขัดกับหลักคุณธรรมสากลเหล่านี้หรือไม่ หากขัด ก็มีแนวโน้มว่าไม่ถูกต้อง
สรุปแล้ว จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังร่วมกับการพัฒนาทักษะดิจิทัลอื่น ๆ เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าโดยปราศจากจริยธรรมกำกับอาจนำไปสู่ผลเสียหายได้ การเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดีไม่ใช่แค่เก่งเทคโนโลยี แต่ต้อง ใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม เพื่อให้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่สำหรับทุกคน