บทที่ 2 มารยาทดิจิทัล
ความหมายของมารยาทดิจิทัล: “มารยาทดิจิทัล” หรือ Netiquette (Network Etiquette) คือแนวปฏิบัติและกฎเกณฑ์ทางมารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อให้เกิดความสุภาพและเคารพซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับที่สังคมมีมารยาททางสังคม การอยู่ร่วมกันในโลกออนไลน์ก็ต้องอาศัยมารยาทในการอยู่ร่วมในสังคมไซเบอร์ การสื่อสารผ่านข้อความ อีเมล โซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ หากปราศจากน้ำเสียงและสีหน้าท่าทางอย่างในชีวิตจริง อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือบานปลายเป็นความขัดแย้งได้ง่าย มารยาทดิจิทัลจึงเป็นเหมือนกติกาสังคมออนไลน์ ที่ช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
หลักการสำคัญของมารยาทบนโลกออนไลน์: มีการแนะนำ “บัญญัติ 10 ประการ” ของมารยาทอินเทอร์เน็ตไว้ ซึ่งแม้จะมีหลายเวอร์ชัน แต่โดยภาพรวมมีหลักการคล้ายคลึงกัน ได้แก่:
1. จำไว้ว่าอีกฝ่ายคือมนุษย์จริง ๆ: หลักพื้นฐานที่สุดของมารยาทออนไลน์คือ “อย่าลืมว่าคุณกำลังสื่อสารกับคนจริง ๆ” หลังหน้าจอ การจะพิมพ์หรือโพสต์อะไรให้คิดเสมอว่าถ้าอยู่ต่อหน้าเราจะพูดเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ – ก็ไม่ควรพูดในออนไลน์เช่นกัน (Demmler, 2020news.temple.edu) การยึดหลัก “คิดก่อนคลิก” และถามตนเองว่า “สิ่งที่กำลังจะโพสต์นี้เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเป็นชีวิตจริงเราจะพูดไหม” จะช่วยกรองข้อความที่อาจไม่เหมาะสมออกไปได้มาก ทำให้บรรยากาศการสื่อสารสุภาพขึ้น
2. สุภาพและให้เกียรติผู้อื่น: การสื่อสารออนไลน์ควรใช้ถ้อยคำสุภาพเช่นเดียวกับการพูดต่อหน้า หลีกเลี่ยงการใช้คำหยาบคาย ด่าทอ หรือล้อเลียนผู้อื่นอย่างรุนแรง ควรเคารพความคิดเห็นและความแตกต่างระหว่างบุคคล หากไม่เห็นด้วยก็ควรแย้งอย่างมีเหตุผลและเคารพในศักดิ์ศรีของอีกฝ่าย
3. อย่าพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด: ในการส่งข้อความหรือแสดงความเห็น การใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งประโยคเทียบเท่ากับการตะโกนใส่ผู้อ่าน ซึ่งถือว่าไม่สุภาพ ควรใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะในบริบทที่จำเป็น เช่น การเน้นคำสำคัญ หรือชื่อย่อเท่านั้น
4. ระวังการใช้อารมณ์ขันและการเสียดสี: อารมณ์ขัน ประชดประชัน หรือเสียดสีในข้อความเขียนอาจถูกตีความผิดได้ง่าย เพราะขาดน้ำเสียงประกอบ ควรใช้อย่างระมัดระวังและพิจารณาว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจหรือไม่ หากไม่แน่ใจควรหลีกเลี่ยง หรือใช้ อีโมจิ (emoji) ช่วยสื่ออารมณ์เพิ่มเติม แต่ก็ไม่ควรใช้มากเกินไปจนอาจถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพในบางบริบท
5. ไม่สแปมหรือส่งข้อความลูกโซ่: อย่าส่งข้อความ ซ้ำ ๆ ติดต่อกันหลายครั้ง (spam) หรือส่งต่อจดหมายลูกโซ่ที่ไม่มีประโยชน์ การกระทำเหล่านี้สร้างความรำคาญให้ผู้อื่นและรบกวนการสนทนา ควรส่งสารอย่างพอเหมาะและตรงประเด็น
6. เคารพกฎกติกาของชุมชนออนไลน์: แต่ละแพลตฟอร์ม กลุ่ม หรือฟอรั่มออนไลน์มักมีกฎระเบียบของตนเอง เช่น หัวข้อที่ห้ามพูด รูปแบบการโพสต์ที่ควรปฏิบัติ เป็นต้น ควรอ่านและปฏิบัติตามกฎเหล่านั้นเสมอ การละเมิดกฎของชุมชนออนไลน์นอกจากจะเสียมารยาทแล้ว ยังอาจทำให้โดนแบนหรือถูกลบข้อความได้
7. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น: ดังที่กล่าวในส่วนสิทธิ การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลหรือเรื่องที่เป็นความลับของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดที่ทั้งผิดกฎหมายและผิดมารยาท ในการสนทนาออนไลน์ ควรเลี่ยงการเอ่ยถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร เรื่องสุขภาพหรือเรื่องอ่อนไหว หากหัวข้อไม่เกี่ยวข้องและไม่ได้รับการยินยอม
8. ยอมรับความเห็นต่างและไม่นำเรื่องส่วนตัวมาปนในที่สาธารณะ: ในการสนทนาออนไลน์แบบกลุ่ม หากเกิดความขัดแย้งหรือมีความเห็นต่าง ควรอภิปรายด้วยเหตุผลในประเด็นนั้น ๆ ไม่โจมตีบุคคลหรือดึงเรื่องส่วนตัวของคู่กรณีมาเปิดเผยในที่สาธารณะ การถกเถียงควรอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงหรือความคิดเห็นต่อเรื่องที่หารือ ไม่ใช่การโจมตีตัวบุคคล (no personal attacks)
9. อย่าใช้อำนาจในทางที่ไม่สร้างสรรค์: ผู้ที่มีอำนาจพิเศษในโลกออนไลน์ เช่น ผู้ดูแลระบบ แอดมิน หรือผู้มีสถานะสูงในชุมชน ควรใช้อำนาจนั้นอย่างเป็นธรรม “อย่าใช้อำนาจในทางที่ไม่สร้างสรรค์” เช่น ไม่แก้ไขหรือลบข้อความของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล ไม่กลั่นแกล้งสมาชิกที่ตนไม่ชอบ เป็นต้น ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในการแสดงออกตามขอบเขตที่กำหนด
10. ให้อภัยความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้อื่น: ไม่ใช่ทุกคนจะเชี่ยวชาญการใช้งานดิจิทัลเหมือนกัน หากพบเจอคนที่ทำผิดมารยาทไปบ้างเล็กน้อย เช่น ใช้คำไม่สุภาพโดยไม่ตั้งใจ โพสต์ผิดที่ หรือถามคำถามที่ตอบไปแล้ว ก็ควรให้อภัยหรือแนะนำด้วยความสุภาพแทนที่จะต่อว่าอย่างรุนแรง การมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อจะทำให้สังคมออนไลน์น่าอยู่ขึ้น
มารยาททั้ง 10 ข้อนี้เป็นแนวทางกว้าง ๆ ที่ช่วยให้เราอยู่ร่วมกับผู้อื่นในโลกออนไลน์อย่างสงบสุข หัวใจสำคัญคือการเคารพและมีความเห็นอกเห็นใจ (empathy) ต่อผู้อื่น จำไว้ว่าหลังหน้าจอคือคนจริง ๆ ที่มีความรู้สึก การปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพและให้เกียรติจะช่วยลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งและความเกลียดชังบนสื่อสังคมได้ นอกจากนี้การรักษามารยาทที่ดีออนไลน์ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์และตัวตนดิจิทัลของเราเอง ซึ่งส่งผลต่อชื่อเสียงและโอกาสในอนาคตได้เช่นกัน