ความหมายของพลเมืองดิจิทัล:พลเมืองดิจิทัล” (Digital Citizen) คือบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตเป็นประจำอย่างมีทักษะและความรับผิดชอบ เพื่อมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ทั้งในมิติการเรียนรู้ การทำงาน และการดำรงชีวิตประจำวัน นิยามของความเป็นพลเมืองดิจิทัลมีหลากหลายมุมมอง ตัวอย่างเช่น UNESCO (2017) ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า พลเมืองดิจิทัลหมายถึง ผู้ใช้เครื่องมือดิจิทัลที่สามารถเข้าถึง ค้นหา และสร้างข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้อื่นอย่างสร้างสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยีด้วยจริยธรรม และสามารถดำเนินกิจกรรมออนไลน์ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ทั้งยังตระหนักในการใช้สิทธิของตนเองโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อผู้อื่น (UNESCO, 2017so06.tci-thaijo.org) นั่นคือพลเมืองดิจิทัลที่ดีต้องทั้ง เก่งดิจิทัล และ เป็นคนดีในโลกดิจิทัล ไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากมุมมองของ UNESCO แล้ว นักวิชาการและหน่วยงานต่าง ๆ ก็มีคำอธิบายเกี่ยวกับพลเมืองดิจิทัลในลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น Mike Ribble (2015) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลเมืองดิจิทัล ระบุว่าพลเมืองดิจิทัลคือ การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ เพื่อดำเนินกิจกรรมและทำงานร่วมกับผู้อื่น สร้างสรรค์สังคมในทางบวก (Ribble, 2015so06.tci-thaijo.org) ส่วน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย (2560) ให้ความหมายไว้ว่า พลเมืองดิจิทัลคือประชาชนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ โดยต้องสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ มีมารยาทในการสื่อสารออนไลน์ เข้าใจและเคารพกฎระเบียบและกฎหมาย ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม และส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี (กระทรวงดิจิทัลฯ, 2560so06.tci-thaijo.org) จะเห็นได้ว่าทุกนิยามล้วนชี้ไปที่แกนหลักเดียวกัน คือ การใช้งานดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน มีจริยธรรม และรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม

ความสำคัญของพลเมืองดิจิทัล: การเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดีเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทในทุกด้านของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การทำงาน เศรษฐกิจ หรือชีวิตส่วนตัว ผู้ที่ขาดทักษะพลเมืองดิจิทัลอาจประสบปัญหาในการใช้ชีวิตยุคใหม่ เช่น ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ หลงเชื่อข้อมูลเท็จ ละเมิดสิทธิผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว หรือถูกชักจูงไปในทางที่ผิด ในทางกลับกัน ผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านนี้จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้เต็มที่ พร้อมทั้งปกป้องตนเองและผู้อื่นจากความเสี่ยงออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

ในระดับสังคมและประเทศชาติ พลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพจะช่วยยกระดับสังคมออนไลน์ให้ปลอดภัยและน่าอยู่ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างพลวัตใหม่ ๆ ให้กับการมีส่วนร่วมของพลเมือง เช่น การแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นสาธารณะผ่านสื่อออนไลน์ หรือการระดมทุนและอาสาสมัครผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นต้น ประเทศไทยเองได้เล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้เช่นกัน ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่มุ่งพัฒนาศักยภาพพลเมืองในโลกดิจิทัล หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง สำนักงาน กสทช. (2562) ก็ได้สนับสนุนโครงการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาทักษะความเป็นพลเมืองดิจิทัลในกลุ่มต่าง ๆ เช่น โครงการเสริมทักษะพลเมืองดิจิทัลด้านความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ที่ริเริ่มเพื่อหาแนวทางช่วยให้ผู้สูงวัยใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัยbtfp.nbtc.go.th ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในยุคดิจิทัล

สิทธิและหน้าที่ในโลกดิจิทัล

สิทธิในโลกดิจิทัล: พลเมืองทุกคนย่อมมีสิทธิพื้นฐานที่ติดตัวมาทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ หลักการสำคัญคือ สิทธิมนุษยชนในโลกจริงมีผลในโลกดิจิทัลเช่นกัน” สิทธิด้านดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและอินเทอร์เน็ต (digital access) ซึ่งหมายถึงโอกาสในการใช้เทคโนโลยีและออนไลน์อย่างเท่าเทียมกัน พลเมืองดิจิทัลควรตระหนักว่าคนแต่ละกลุ่มอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีต่างกัน และไม่ควรกีดกันหรือดูถูกผู้ที่ทักษะดิจิทัลน้อยกว่า แต่ควรสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเสมอภาคso06.tci-thaijo.org อีกสิทธิหนึ่งที่สำคัญคือ สิทธิความเป็นส่วนตัว (privacy) ในโลกออนไลน์ ซึ่งรวมถึงสิทธิในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตน สิทธิที่จะเลือกว่าอะไรจะถูกเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรทราบวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และมีสิทธิที่จะปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลที่ตนไม่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก บนสื่อดิจิทัล ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นหรือสร้างสรรค์ผลงานลงบนโลกออนไลน์ได้ แต่การใช้เสรีภาพนี้ก็มาพร้อมความรับผิดชอบดังที่จะกล่าวต่อไป

หน้าที่และความรับผิดชอบ: ควบคู่กับสิทธิ ย่อมมีหน้าที่ที่พลเมืองดิจิทัลพึงปฏิบัติเพื่อไม่ให้การใช้สิทธิตนเองไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น UNESCO (2017) เน้นย้ำว่าผู้ใช้ออนไลน์ควรตระหนักถึงการใช้สิทธิของตนไม่ให้กระทบด้านลบต่อผู้อื่น (UNESCO, 2017so06.tci-thaijo.org) กล่าวคือเรามีหน้าที่เคารพสิทธิของผู้อื่นในโลกดิจิทัลพอ ๆ กับที่เราเคารพสิทธิของเขาในโลกจริง ตัวอย่างของความรับผิดชอบเหล่านี้ ได้แก่:

  • เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น: ไม่ละเมิดข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เช่น แอบอ่านอีเมลหรือข้อความของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เผยแพร่ข้อมูล รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม การไม่เคารพความเป็นส่วนตัวถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานและผิดมารยาทอย่างร้ายแรงบนโลกออนไลน์csjoy.com นอกจากนี้ยังรวมถึงการไม่ระบุตัวตนหรือเผยแพร่ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลของผู้อื่น (เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรฯ) ในที่สาธารณะออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันอันตรายหรือการคุกคามที่จะเกิดกับเจ้าของข้อมูล
  • เคารพทรัพย์สินทางปัญญา: ไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน (ไม่ลอกผลงานหรือนำผลงานคนอื่นไปเผยแพร่โดยไม่มีเครดิต) การดาวน์โหลดเพลง หนัง หรือซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ถือเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในโลกดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลที่ดีควรตระหนักถึงกฎหมายลิขสิทธิ์และเลือกใช้เนื้อหาที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือใช้สัญญาอนุญาตแบบ Creative Commons เมื่อเผยแพร่หรือดัดแปลงเนื้อหา
  • ไม่ใช้เทคโนโลยีทำร้ายหรือรบกวนผู้อื่น: เช่น ไม่กลั่นแกล้งรังแก (cyberbullying) ไม่ก่อกวนการสนทนาหรือระบบของผู้อื่น การโจมตีทางไซเบอร์ การแฮ็ก หรือการส่งไวรัสล้วนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม พลเมืองดิจิทัลมีหน้าที่ต้องไม่นิ่งนอนใจต่อการกระทำเหล่านี้ หากพบเห็นควรหลีกเลี่ยงการสนับสนุน และสามารถแจ้งผู้ดูแลระบบหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดการต่อไป
  • ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อตกลงการใช้บริการ: การอยู่ในโลกออนไลน์ยังต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ หรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) สำหรับประเทศไทย ผู้ใช้ต้องไม่โพสต์เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย (เช่น หมิ่นประมาท ผิดพรบ.คอมฯ) และควรเคารพข้อตกลงการใช้บริการของแพลตฟอร์มต่าง ๆ (เช่น ข้อห้ามเกี่ยวกับเนื้อหาบางประเภท) เพื่อรักษาสิทธิในการใช้งานและไม่ถูกระงับบัญชี

โดยสรุป สิทธิและหน้าที่ในโลกดิจิทัลเป็นของคู่กัน เรามีสิทธิที่จะเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีได้อย่างเสรี แต่ขณะเดียวกัน เรามีหน้าที่ต้องใช้อย่างรับผิดชอบ เคารพผู้อื่น และไม่ละเมิดกฎหมายหรือจริยธรรม การตระหนักรู้ถึงกรอบสิทธิ-หน้าที่นี้จะช่วยให้การใช้งานดิจิทัลของเราเป็นไปอย่างสมดุลและปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย

แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอังคาร, 2 กันยายน 2025, 9:49AM